สารบัญ
สรุปมาตรการเราชนะรอบใหม่ผู้สมัครแล้วกว่า 33.2 ล้านคน 2566
ด้วยพิษโควิดทำเอาอาชีพอิสระและประชาชนได้รับผลกระทบกันอย่างถ้วนหน้าเลยทีเดียว มีก็แต่ได้รับผลกระทบมากหรือน้อยกว่ากันเท่านั้นเอง ซึ่งมาตรการของรัฐที่ออกมาให้เงินเยียวยาก็ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนหลายคนคาดหวังและตั้งตารอคอย เพราะใครหลายคนก็ขาดรายได้รวมทั้งไม่สามารถประกอบอาชีพได้เหมือนปกติ ซึ่งเราชนะรอบใหม่ก็จะยังคงให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประกอบอาชีพอิสระที่ไม่ได้เป็นผู้ประกันตน ม.33 ให้ได้รับเงินเยียวยาเช่นเคย ซึ่งวันนี้เราก็ได้นำเอาบทสรุปสำคัญที่น่าสนใจมาอัพเดตเกี่ยวกับโครงการเราชนะรอบใหม่ที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน จะเป็นอย่างไรนั้น เราไปดูกันเลย
วิธีสมัครเราชนะรอบใหม่ล่าสุด 2566
ช่องทางเดียวที่สามารถลงทะเบียนเราชนะรอบใหม่หรือโครงการนี้ได้มีแค่ทางเว็บไซด์ออนไลน์ของรัฐ คือ www.เราชนะ.com เท่านั้น ไม่มีการเปิดให้ใช้วิธีสมัครรับเงินเยียวยาเราชนะรอบใหม่ที่อื่นหรือผ่านตัวแทน หรือต้องการข้อมูลผ่านใครทั้งสิ้น ประชาชนที่มีคุณสมบัติสามารถเข้าไปเช็คสิทธิ์และสมัครได้ช่องทางนี้เท่านั้น
สำหรับคนที่ได้เคยสมัครลงทะเบียนเราชนะมาก่อนแล้ว ไม่ต้องมีการลงทะเบียนเราชนะรอบใหม่ซ้ำแต่อย่างใด เพราะจะมีการให้เงินเยียวยาไปที่ฐานลูกค้าเดิมได้เลยทันที ซึ่งผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนมาก่อนจะต้องสมัครในเวลาที่กำหนดเท่านั้น เบื้องต้นสามารถเข้าไปที่เว็บไซด์เพื่อทำการเช็คสิทธิ์ก่อนได้เลยทันที
ผู้สมัครคุณสมบัติเราชนะรอบใหม่
- ผู้สมัครลงทะเบียนจะต้องเป็นสัญชาติไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น
- จะต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (ขึ้นไป)
- ผู้ลงทะเบียนเราชนะรอบใหม่จะต้องมีเงินรวมทุกบัญชีเงินฝาก ไม่เกิน 5 แสบบาท
- ไม่เป็นข้อราชการหรือทำงานภาครัฐ (ไม่รับเงินเดือนจากภาครัฐ)
- ไม่เป็นผู้ประตนของประกันสังคม มาตรา 33 อย่างเด็ดขาด (เพราะจะเป็นการซ้อนทับโครงการให้เงิน)
มูลค่าการใช้จ่ายจากเราชนะรอบใหม่
เนื่องจากเราชนะรอบใหม่ในช่วงระยะเวลาโครงการ 29 มกราคม 2566- 30 มิถุนายน 2566 ได้สิ้นสุดลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็จะมาสรุปภาพรวมโครงการการให้เงินเยียวยาเราชนะรอบใหม่นี้อย่างคราว ๆ ดังนี้
- รวมประชาชนผู้สมัครลงทะเบียนจำนวน 33.2 ล้านคน โดยมีกลุ่มผู้รับสิทธิ์จากบัตรคนจนหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.7 ล้านคน และผู้ที่ได้ใช้สิทธิ์ผ่านแอปฯเป๋าตัง 17.1 ล้านคน
รวมวงเงินเยียวยาการใช้จ่ายในเศรษฐกิจของประเทศไทยแล้วมูลค่ากว่า 266,612 ล้านบาท ซึ่งได้มีการใช้จ่ายสำหรับร้านอาหารและเครื่องดื่มมาเป็นอันดับหนึ่ง โดยมีมูลค่าแล้วกว่า 51,224 ล้านบาท ตามมาด้วยการใช้จ่ายผ่านร้านธงฟ้า มูลค่า 91,406 ล้านบาท ฟ